หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ตมีมติเห็นชอบหลักการโครงการฯ โดยจะเปิดให้ประชาชนและร้านค้าเข้าร่วมโครงการภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และจะมีการเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 โดยให้ประชาชนนำไปซื้อสินค้าได้ทุกประเภท (ยกเว้นอบายมุข บริการ น้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าออนไลน์) จากร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ภายในอำเภอ (รวมร้านสะดวกซื้อ Standalone และในปั๊มน้ำมัน)

นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง- ค้าปลีกไทย กล่าวว่าหากเปิดให้ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ สามารถเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต10,000 บาทได้ จะทำให้เป้าหมายที่รัฐบาลต้องการฟื้นเศรษฐกิจให้เกิดเงินหมุนเวียนหลายรอบไม่เป็นไปตามเป้า เพราะเงินจะไปกระจุกอยู่ที่รายใหญ่เพียงไม่กี่ราย เม็ดเงินที่ใช้ในโครงการนี้ 500,000 ล้าน อาจตกไปอยู่ในมือของคนรวยไม่กี่คนในบ้านเมืองนี้ ไม่ต่ำกว่า 250,000 ล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนเงื่อนไข เพราะไม่งั้นจะเป็นตราบาปของคนที่อนุมัติโครงการนี้

ในเมื่อรัฐบาลต้องการนำเงินส่วนนี้มาสร้างระบบค้าขายให้ดีขึ้น ฟื้นเศรษฐกิจ ก็ต้องไปแก้ตรงส่วนใหญ่ของประเทศที่ได้รับความเดือดร้อน ณ เวลานี้ ไม่ใช่ไปแก้เพื่อตอบสนองต่อคนกระจุกเดียว ไม่งั้นพอเงินก้อนนี้10,000 ใช้แล้วหมดไป มีอะไรเกิดขึ้นตามหลังมา ไม่มีครับ มีแต่พวกเราต้องคอยใช้หนี้ แต่ว่าความรวย 500,000 ล้าน อาจจะมี 250,000 ล้าน ที่ไปอยู่ในมือคนรวย ไม่กี่คนในบ้านเมืองนี้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า สิ่งนี้ต่างหากที่ต้องทบทวน ให้หนักยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นตราบาปของคนที่ร่วมโครงการ แล้วอนุมัติ นายสมชาย กล่าว

แนะจำกัดจำนวนร้านสะดวกซื้อร่วมดิจิทัลวอลเล็ต

นายสมชาย เสนอว่า ควรจำกัดจำนวนร้าน ของร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ที่จะเข้าร่วมโครงการ เพราะเงื่อนไขในการแจกเงินให้ประชาชนยังมีการกำหนด ความรวย ความจน ดังนั้นถ้าจะให้เกิดความเสมอภาค ฝั่งร้านค้าก็กำหนดเงื่อนไขเช่นกัน เพื่อเน้นช่วยธุรกิจรายย่อยที่ไม่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ในตลาดได้คำพูดจาก เว็บพนันออน

นายสมชาย ยังตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเงื่อนไข ให้ร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ที่รับเงินรอบแรกยังไม่สามารถไปแลกเป็นเงินสดได้ ต้องไปซื้อสินค้าในรอบที่ 2 ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องไปซื้อของจากรายใหญ่อีกทอด สุดท้ายก็ไม่ต่างจากการส่งเสริมให้รายใหญ่ในประเทศนี้กินรวบ

โชห่วย ค้านร้านสะดวกซื้อร่วมดิจิทัลวอลเล็ต

ขณะที่ทีมข่าวพีพีทีวี ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นร้านขายของชำ และร้านโชห่วย ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็นด้วย หากร้านสะดวกซื้อรายใหญ่สามารถเข้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยมองว่าหากรัฐบาลจะแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทีก็อยากให้กระจายถึงร้านค้าขนาดเล็ก เพราะทุกวันนี้ร้านค้ารายย่อยหลายรายก็อยู่ไม่ได้ ทยอยปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมากแล้ว

“สู้เขาไม่ได้ ยังไงเขาก็ดีกว่าเรา สู้เขาไม่ได้ บางทีเราก็ขายไป บางทีเราพออยู่ได้ บางทีเราก็ปิดดีกว่า ลูกค้าแทนที่จะมาหาเรา ก็ไปซื้อร้านสะดวกซื้อหมด เราก็มองว่าไม่น่าเข้า เพราะมีผลกระทบต่อรายย่อย ร้านของเรา ไม่น่าให้เขาน่าจะเป็นแบบร้านขายของชำธรรมดา” นางนุชนาถ กล่าว

"สนั่น" เบรกร้านสะดวกซื้อร่วมดิจิทัลวอลเล็ต

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่ให้ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น-อีเลเว่น เข้าเกณฑ์จับจ่ายในโครงการฯ เอกชนมองว่าไม่เหมาะสม เพราะอยากให้เงิน 10,000 บาท ถูกใช้และกระจายไปยังร้านค้าขยายเล็กมากกว่า โดยเฉพาะร้านค้าชุมชน

ส่วนการจัดทำ Appication ใหม่ (Super App) หอการค้าฯ เคยเสนอใช้ App เป๋าตัง เพราะประชาชนคุ้นเคย ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าเข้าถึงประชาชนได้และทำได้เร็ว หากนำ super app มาใช้จะทำให้เกิดความยุ่งยากกับประชาชนและอาจจะเกิดความล่าช้า เพราะต้องไปทั้งเขียนและทดสอบระบบใหม่ อยากให้พิจารณานำแอปเป๋าตังที่มีอยู่เดิมและมีฐานข้อมูลผู้บริโภคกลุ่มเปราะบางมากกว่า 15 ล้านคน นำมาใช้ก่อนส่วนกลุ่มอื่น ๆ ค่อยทยอยจัดสรรให้เป็นระยะๆ

ถ้าเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” จะเกิดอะไรขึ้น ส่งผลต่อไทยอย่างไร?

“บิ๊กโจ๊ก”ร้องคำสั่งให้ออกมิชอบ! หมายหัวรักษาการ ผบ.ตร.ติดคุกแน่ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“วันพืชมงคล 2567” โรงเรียน-ราชการ-เอกชนหยุดหรือไม่

By admin