เมื่อวันที่ 15 ก.พ. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาความแออัดคับคั่ง และการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อรองรับการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศว่า หลังจากไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ รวมถึงจีนเปิดประเทศ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงส่งผลให้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางทางอากาศเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้บริการ ทสภ. และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ห่วงโซ่อุปทานด้านการบินยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดปัญหาความแออัดคับคั่งของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน (Peak Hour)คำพูดจาก เล่นเกมสล็อตออน
จากข้อมูลปริมาณเที่ยวบิน และจำนวนผู้โดยสารของ ทอท. (วันที่ 8-31 ม.ค. 66) มีเที่ยวบินในภาพรวม 43,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 1,800 เที่ยวบิน/วัน และผู้โดยสารในภาพรวม 6.89 ล้านคน หรือเฉลี่ย 287,000 คน/วันโดยเป็นเที่ยวบินที่ ทสภ. 25,690 เที่ยวบิน และผู้โดยสาร 4.3 ล้านคน ซึ่ง ทอท. มีเที่ยวบินเส้นทางจากจีน 2,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 80 เที่ยวบิน/วัน มีผู้โดยสาร 255,000 คน หรือเฉลี่ย 11,000 คน/วัน ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ ทสภ. 1,126 เที่ยวบิน และผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก 238,374 คน
ทั้งนี้ ในส่วนของ ทสภ. ข้อมูลในเดือน ม.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 66 มีปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ย 829 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 84% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 561 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 139% และเที่ยวบินภายในประเทศ 268 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 24% และมีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออก เฉลี่ย 138,287 คน/วัน ฟื้นตัว 317% แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 101,551 คน/วัน ฟื้นตัว 981% และผู้โดยสารภายในประเทศ 36,736 คน/วัน ฟื้นตัว 55% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 65
ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ และลงพื้นที่ตรวจสภาพปัญหาความแออัดคับคั่งของผู้โดยสารที่ ทสภ. อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้าของผู้ประกอบการภาคพื้นทั้ง 2 ราย (TG และ BFS) ที่ใช้เวลามากกว่า 30 นาที เมื่อเดือน ธ.ค. 65 ซึ่งมีประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน ปัจจุบัน (เดือน ก.พ. 66) ลดลงเหลือประมาณ 15 เที่ยวบินต่อวัน จะเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนนั้น บริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้ง 2 ราย ได้เพิ่มจำนวนบุคลากร และอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดประเทศ
รวมทั้งทอท.ได้ขยายระยะเวลาให้บางสายการบินบริการภาคพื้นด้วยตนเอง(Self Handling)เป็นการชั่วคราวสำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวทอท.อยู่ระหว่างสรรหาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่3เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นและเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบินจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตได้อย่างยั่งยืนส่วนการเตรียมการแก้ไขปัญหาความแออัดคับคั่งบริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางและจุดตรวจค้น(Security Screening)ภายในอาคารผู้โดยสารทสภ.ในอนาคตขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงพื้นที่จุดตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้า-ออก
โดยจะเพิ่มช่องตรวจในรูปแบบAuto Channelรวมถึงเพิ่มNew Priority Zoneเพื่อเพิ่มพื้นที่และเพิ่มจำนวนช่องตรวจหนังสือเดินทางและจุดตรวจค้นตลอดจนเพิ่มพื้นที่Visa on Arrivalที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (Satellite 1: SAT-1)และเพิ่มPre-Immigration Kioskที่อาคารผู้โดยสารหลักและอาคารSAT-1ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะพร้อมให้บริการในเดือนก.ย.66และในปี67จะเปิดให้บริการพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าVisa on Arrivalและพื้นที่จุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าบริเวณสวนไผ่ชั้น2ทสภ.
สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาทสภ.ระยะที่2นั้นขณะนี้ทอท.ได้ดำเนินงานก่อสร้างอาคารSAT-1เรียบร้อยแล้วปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการทดสอบระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า(Baggage Handling System: BHS)คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค.66จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ(Operation Readiness Airport Transfer: ORAT)ในการทดสอบเต็มรูปแบบ(Full Scale Trial)เพื่อพร้อมเปิดรับผู้โดยสารภายในเดือนก.ย.66ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความแออัดคับคั่งของผู้โดยสารลงได้.