วันที่ 4 ส.ค. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นำเอกสารชี้แจงของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ส่งถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงคำแถลงการณ์ เรื่องการซื้อที่ดิน เปิดให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมบอกว่า นี่เป็นหลักฐาน ที่เขาเตรียมตรวจสอบเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หลังก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ ก็ออกมาแฉเช่นเดียวกัน
“แสนสิริ” หุ้นร่วง 2 วินติด -8% เซ่น “ชูวิทย์” แฉเลี่ยงภาษีซื้อที่ดิน 521 ล้านบาท
แสนสิริ โต้ “ชูวิทย์” ปมพิรุธซื้อที่ดินเลี่ยงภาษี 521 ล้าน โยง “เศรษฐา”
นายเรืองไกร บอกว่า เขาอ่านเอกสารแล้วรู้สึกสงสัย และ เมื่อบริษัทแสนสิริ ทำหนังสือชี้แจงเรื่องนี้ต่อ กลต. จึงอาจสะท้อนว่าเรื่องนี้มีมูลที่น่าสนใจ คือ บริษัทมีการปัดเรื่องการซื้อที่ดินว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายจัดหาที่ดิน กรรมการและผู้บริหารไม่มีส่วนรู้เห็น
แต่ในรายงานประจำปีเรื่องโครงสร้างบริษัท มีการระบุโครงสร้างว่า ฝ่ายจัดหาที่ดินอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการและผู้บริหาร นายเรืองไกร มองว่า จะกล่าวอ้างว่าทางผู้บริหารไม่รู้เรื่องเป็นไปไม่ได้
ขณะที่เรื่องการโอนที่ดินมีการแบ่งส่วน โอน 12 ครั้ง นายเรืองไกร เห็นด้วยกับนายชูวิทย์ ว่า เป็นการกระทำที่ผิดวิสัย ส่งผลต่อการเสียภาษีที่น้อยลงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เมื่อถามว่า การกระทำนี้ เข้าข่ายการเลี่ยงภาษีหรือไม่ นายเรืองไกร บอกว่า บริษัทมีการอ้างว่าผู้ขายต้องการโอนลักษณะเอง แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อรัฐ มองว่าเรื่องนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ก็ควรเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพราะบริษัทแสนสิริเป็นบริษัทมหาชนที่อยู่ภายใต้การดูแลของตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่กรมสรรพากรก็ควรเข้าไปตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีด้วย เหมือนกับที่เคยตรวจสอบที่ดินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก่อนหน้านี้
ส่วนทางด้านของบริษัท แสนสิริเอง ก็มองว่า ควรออกเปิดเผยรายละเอียดเรื่องการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ให้ชัดเจน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและง่ายให้ต่อการตรวจสอบ นายเรืองไกร มองว่า การเปิดประเด็นเรื่องเลี่ยงภาษีครั้งนี้อาจเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งถ้าหาข้อเท็จจริงได้อาจนำไปสู่การเปิดโปงว่ามีกี่บริษัทที่ใช้วิธีเลี่ยงภาษีในลักษณะนี้อีก
สำหรับการตรวจสอบเรื่องนี้ นายเรืองไกร บอกว่า หากท้ายที่สุดบริษัท แสนสิริ ไม่ได้ชี้แจงและเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ทั้งหมด เชื่อว่า กรรมาธิการวุฒิสภา จะมีการเรียกเอกสารเรื่องนี้จากกรมที่ดิน และตลาดหลักทรัพย์ มาตรวจสอบว่า มีการเลี่ยงภาษีอย่างที่เป็นข่าวอยู่จริงหรือไม่ เชื่อว่ากรรมาธิการวุฒิสภาจะไม่ปล่อยให้ผู้ชิงตำแหน่งนายกฯ ตกอยู่ในความเคลือบแคลงสงสัยแบบนี้แน่นอน