วันนี้ (22 เม.ย.) Silentworld Foundation กลุ่มศึกษาโบราณคดีทางทะเลรายงานการค้นพบซากเรือขนส่งของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 “เอสเอส มอนเตวิเดโอ มารู (SS Montevideo Maru)” ซึ่งถูกจมลงไปใต้ทะเลลึกตั้งแต่เมื่อ 80 กว่าปีก่อนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
มอนเตวิเดโอ มารู ถูกจมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1942 ขณะอยู่ในเส้นทางจากปาปัวนิวกินีในปัจจุบันไปยังเกาะไหหลำของจีน บริเวณนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ โดยถูกตอร์ปิโดจากเรือยูเอสเอส สเตอร์เจียน ของสหรัฐฯ โจมตี
“ยูเครนเข้าร่วมกลุ่มนาโตได้” หลังสงครามกับรัสเซียสิ้นสุดลง
4 เดือนแรกของปี 2023 สหรัฐเกิดเหตุสังหารหมู่เกินครึ่งของค่าเฉลี่ยแล้ว
นักวิทย์พบแล้ว สาเหตุที่ทำให้คนเรา “ผมหงอก” อนาคตอาจมีวิธีป้องกัน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสหรัฐฯ ไม่รู้เลยว่า บนเรือขนส่งลำนี้มีเชลยศึกชาวออสเตรเลียเกือบ 1,000 คนอยู่บนเรือด้วย เป็นเหตุให้เมื่อเรือจมลง ก็ได้ทำให้เชลยทั้งหมดเหล่านั้นเสียชีวิตตามไปด้วย
ที่ผ่านมา ไม่มีใครทราบตำแหน่งที่แน่ชัดของซากเรือ โดยเป็นปริศนามากว่า 80 ปี จนกระทั่งกลุ่ม Silentworld Foundation มาพบเข้าที่ความลึกมากกว่า 4 กม. ในบริเวณทะเลจีนใต้
การจมของเรือมอนเตวิเดโอ มารู ถือเป็นภัยพิบัติทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดของออสเตรเลีย คร่าชีวิตพลเมืองออสเตรเลียไปประมาณ 979 คน ในจำนวนนี้เป็นทหารอย่างน้อย 850 นาย ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน นอกจากนี้ บนเรือยังมีเชลยพลเรือนจากอีก 13 ประเทศอยู่บนเรือด้วย ทำให้ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว จำนวนเชลยที่ถูกสังหารอยู่ที่ประมาณ 1,060 คน โดยผู้เสียชีวิตมีตั้งแต่เด็กหนุ่มอายุ 15 ปีไปจนถึงผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
เชลยเหล่านี้ถูกจับได้ในช่วงการล่มสลายของฐานทัพที่ราบวล (Rabaul) ซึ่งเป็นฐานทัพที่จัดตั้งขึ้นเพื่อหยุดเส้นทางลำเลียงเสบียงระหว่างมหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรในแถบแปซิฟิก คือ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
ทีมนักสำรวจวางแผนการค้นหาซากเรือนี้มานานหลายปี และเริ่มปฏิบัติการในวันที่ 6 เมษายน ในทะเลจีนใต้ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ และพบผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจในอีก 12 วันต่อมา โดยใช้อุปกรณ์ไฮเทค รวมถึงยานใต้น้ำอัตโนมัติพร้อมระบบโซนาร์
จอห์น มูลเลน ผู้อำนวยการ Silentworld Foundation บอกว่า “การค้นพบเรือมอนเตวิเดโอ มารู ปิดฉากหน้าประวัติศาสตร์การทหารและการเดินเรือของออสเตรเลียอันเลวร้าย”
เขาเสริมว่า “เรากำลังดูหลุมที่ฝังศพผู้คนกว่า 1,000 ชีวิต … เราสูญเสียชาวออสเตรเลียไปในเหตุการณ์นี้เกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับที่เราเสียไปในสงครามเวียดนาม ดังนั้น นี่จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับครอบครัวและลูกหลานของผู้เสียชีวิต”
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบานีส กล่าวว่า “ในที่สุด สถานที่หลับใหลของวิญญาณผู้สูญหายของมอนเตวิเดโอ มารู ก็ถูกพบแล้ว … ในบรรดาเชลย 1,060 คนบนเรือ มีทหารชาวออสเตรเลีย 850 คน”
เขาเสริมว่า “ความพยายามที่อยู่เบื้องหลังการค้นพบนี้บ่งบอกถึงความจริงที่ยั่งยืนของคำมั่นสัญญาระดับชาติของออสเตรเลีย ที่จะจดจำและให้เกียรติผู้ที่รับใช้ประเทศของเราเสมอ … เราหวังว่าข่าวในวันนี้จะช่วยปลอบโยนบุคคลซึ่งเฝ้ารอคอยการค้นพบนี้มาอย่างยาวนาน”
ด้าน ริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวว่า “สิ่งนี้นำมาซึ่งการยุติหนึ่งในบทที่น่าเศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือของออสเตรเลีย … การไม่ทราบจุดจมของเรือมอนเตวิเดโอ มารู เป็นเหมือนภาระหน้าที่ที่ติดค้างสำหรับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจนถึงขณะนี้”
ซากเรือมอนเตวิเดโอ มารู จมอยู่ในความลึกที่ลึกกว่าไททานิก (3.8 กิโลเมตร) ทั้งนี้ มันจะถูกปล่อยไว้ตามเดิมโดยไม่ถูกรบกวน จะไม่มีการนำซากศพของมนุษย์หรือสิ่งประดิษฐ์ออกจากซากเรือ และสถานที่นี้จะถูกบันทึกไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัยเท่านั้น เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / The Guardian
ภาพจาก AFP